วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

คติคำสอนมอญ ตอนที่ 1


คติคำสอนมอญ ตอนที่ 1

พระมหาจรูญ ญาณจารี
 
           คติคำสอน เป็นคำสอนที่คนเฒ่าคนแก่ในแต่ละท้องถิ่น ได้ยึดถือเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ ในชีวิตประจำวัน และสอนลูกสอนหลาน ให้ดำรงตนในทางที่ถูกที่ต้อง ตามจารีตประเพณีของบรรพชน
           คติคำสอน จะแฝงไปด้วยข้อคิดที่เป็นประโยชน์ สะท้อนให้เห็นถึงคติความเชื่อ ระบบความคิด และวิถีชีวิตของกลุ่มชน ประยุกต์ใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย 
สุภาษิตมอญ คำคมมอญ

          ความหมาย  จะครบร้อยได้  ต้องเริ่มต้นตั้งแต่หนึ่ง 
         การทั้งปวงจะดำเนินไปถึงยังจุดหมายปลายทาง ที่เราตั้งความหวังไว้ได้  จะต้องมีจุดเริ่มต้น นั่นหมายถึง จะต้องมีการลงมือกระทำ หาใช่ทำด้วยวาจาไม่ (ประเภทดีแต่พูด แต่ไม่เคยลงมือทำอะไรที่เป็นประโยชน์สร้างสรร แก่ส่วนรวมเลย) การเริ่มต้นที่ดีถือว่ามีชัยไปแล้วครึ่งหนึ่ง เมื่อมีจุดเริ่มต้นแล้ว ก็จำต้องมีการสานต่อแบบค่อยเป็นค่อยไป ก้าวที่เดินไปข้างหน้าแต่ละก้าว พึงระมัดระวังอย่าให้หกล้ม หากมีสิ่งใดมากีดขวางทำให้เราต้องหัวคะมำหน้าคว่ำจูบดิน  ก็อย่าเสียกำลังใจ ท้อถอย ค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นแล้วเดินหน้าต่อไป ค่อย ๆ แก้ปัญหาที่เราประสบพบเจอเข้าไปทีละขั้นตอน ไม่ต้องเร่งรีบ
        ธรรมดาของงานยิ่งโดยเฉพาะงานที่ทำเพื่อบรรพชน กว่าจะสำเร็จจะต้องพบภัย และอุปสรรคและข้อยุ่งยาก เป็นธรรมดาที่สำคัญเราต้องไม่ท้อ เพราะกรุงโรม ก็ไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว
        สำนวนข้างต้นนี้ เป็นการสอนให้เรารู้จักวางแผน และมีขั้นตอนในการกระทำ การจะทำงานใด ๆ ก็ตามจะต้องคิดก่อนทำ ไม่ใช่เอาแต่คิดแล้วไม่ทำ ต้องมีจุดเริ่มทำ และต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ทำแบบก้าวกระโดด ขั้นตอนของงานก็คล้ายกับขั้นบันไดที่เราก้าวขึ้นไป ถ้าเราก้าวขึ้นแต่ละขั้น ๆ อย่างมั่นใจแล้ว ก็จะก้าวถึงขั้นสูงสุดได้อย่างไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่ถ้าคึกคะนอง หรือทนงในพละกำลังความสามารถ ก้าวขึ้นที่ละ 2-3 ขั้น โอกาสที่จะก้าวพลาดพลัดตกลงมาเจ็บตัวเปล่า และไปไม่ถึงจุด ที่หมายใจไว้เป็นไปได้สูง

สุภาษิตมอญ
        ความหมาย      ปลาโมโหน้ำ กระโดดขึ้นบนบก 
        ธรรมชาติของปลา เป็นสัตว์น้ำมีแหล่งน้ำ เป็นวัฏฏจักรของชีวิต เป็นทั้งแหล่งอาศัย และเป็นที่แพร่พันธุ์สืบลูกสืบหลาน เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ของตนไว้ ปลาทีขาดแหล่งน้ำ ก็เหมือนมนุษย์ที่ขาดอากาศ ไม่สามารถนำพานาวาชีวิตให้สถิตย์อยู่บนโลกได้
        สำนวนนี้ เป็นการสอนให้รู้จักกำพืดตนเอง ให้ตระหนักว่าเราเป็นใครมาทางไหน มีบรรพบุรุษเป็นมาอย่างไร และให้พอใจกับสิ่งที่เราเป็นให้มีความเห็นเป็นสัมมาทิฐิ เป็นปลาก็ให้พอใจกับน้ำ เป็นนกก็ให้พอใจกับอากาศ จะปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ เพราะนั่นหมายถึงชีวิต ชีวิตจะสงบสุขได้ถ้าพอใจกับสิ่งที่เป็น เป็นนกไม่รักท้องฟ้า เป็นปลาไม่รักน้ำ เป็นมนุษย์ไม่รักเผ่าพันธุ์และวัฒนธรรมของตน ขวนขวายและทะยานอยาก ในสิ่งที่ก่อให้เกิดโทษและอันตรายแก่ตน ก็คงคล้ายกับปลาที่มีชีวิตอยู่ได้เพราะน้ำ แต่กลับโมโหน้ำซึ่งมีคุณประโยชน์แก่ตนอย่างมหาศาล แล้วกระโดดขึ้นบนบกก็เข้าตำราที่ว่า รนหาที่ตาย หรือดังสำนวนไทยที่ว่า แกว่างเท้าหาเสี้ยน ฉะนี้
 - สุภาษิต คำคม คำพังเพย -

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น