วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

อาหารมอญ


ข้าวทิพย์มอญ
องค์  บรรจุน
       ตามตำนานกล่าวว่า “ข้าวทิพย์” หรือ “ข้าวมธุปายาส” เป็นข้าวที่หุงด้วยน้ำนมโคสด โดยนางสุชาดา และได้นำมาถวายพระสมณโคดม (พระพุทธเจ้า) หลังทรงเลิกบำเพ็ญทุกข์กิริยา ซึ่งได้รับไว้และทรงฉันในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ และวันนั้น ก็ได้สำเร็จโพธิญานเป็นพระอรหันต์ สำหรับข้าวทิพย์จะประกอบด้วยข้าว ถั่ว งา น้ำตาล นม เนย มะพร้าว และเมล็ดพืชต่างๆรวมแล้ว ๒๙ ชนิด ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความหมายอันเป็นศิริมงคลทั้งสิ้น ตลอดขั้นตอนพิธีการกวน จะต้องใช้สาวพรหมจรรย์ ๓ คน ที่เป็นลูกคนหัวปี คนกลาง และคนสุดท้อง ภายในมณฑลพิธี มีข้อห้ามหลายอย่าง เช่น ห้ามดื่มสุรา ห้ามรับประทานอาหาร ห้ามสวมรองเท้า ห้ามผู้มีโรคสังคมรังเกียจ และห้ามหญิงมีประจำเดือน หรือมีครรภ์เข้าไปอย่างเด็ดขาด ตลอดพิธี ครูข้าวทิพย์จะต้องมีการบวงสรวง ลงเลขยันต์ทุกขั้นตอน จึงทำให้พิธีนี้เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ จึงเชื่อกันว่า หากได้นำข้าวทิพย์ ไปรับประทานหรือบูชา ย่อมเกิดมงคลต่อชีวิตเป็นอย่างยิ่ง
ข้าวทิพย์มอญ

       พิธีกวนข้าวทิพย์ เป็นพิธีที่มีความยุ่งยากสลับซับซ้อนมาก ต้องมีการตระเตรียมข้าวของต่าง ๆ จำนวนมาก อาทิ ถั่วต่าง ๆ เมล็ดบัว ลูกเดือย นม เนย ข้าวตอก น้ำหวาน น้ำใบเตย น้ำดอกมะลิ น้ำนม น้ำอ้อย น้ำผึ้ง น้ำกะทิ น้ำตาล มะพร้าว งาดำ งาขาว งาหอม ก่อนการทำพิธีกวนข้าวทิพย์ ประเภทข้าว ได้แก่ ข้าวเหนียว ข้าวก่ำ สาคู ข้าวเม่า ขนมปัง ผลไม้ตามฤดูกาล เป็นต้น
 
ข้าวทิพย์
      ก่อนการทำพิธีกวนข้าวทิพย์ ฝ่ายชายต้องเตรียมแท่นพิธี เพื่อบูชาท้าวจตุโลกบาล (หัวหน้าเทวดาในชั้นจาตุมหาราช รักษาโลกในทิศทั้ง ๔) ส่วนฝ่ายหญิงก็จัดเตรียมเครื่อง ๔ จัดแจงใส่ภาชนะ ที่ทำจากกาบกล้วย ทำให้มีรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดเล็กจำนวน ๕ อัน และขนาดใหญ่จำนวน ๑ อัน ส่วนประกอบของเครื่อง ๔  ประกอบด้วย มะม่วง  กล้วยดิบ  อ้อย  มะพร้าว  มะยม  ข้าวตอก  ดอกไม้  ธูปเทียน  หมาก  พลู  บุหรี่  ปลาย่าง  (หรือ พผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ที่สรรหาได้ตามฤดูกาล) ธงขนาดเล็ก ๔ มุม ส่วนคนอื่นๆ บ้างก็คั่วงา นึ่งข้าว ทำกระธง ขูดมะพร้าว นึ่งถั่ว นึ่งมัน ปอกผลไม้ และอีกสารพัด เพื่อจัดแจงข้าวของให้ทันก่อนเวลาทำพิธีกรรม ทุกอย่างจัดไว้อย่างละ ๔ สำรับ และวางไว้ ๔  มุมในพื้นที่ที่จะเตรียมกวนข้าวทิพย์ ซึ่งล้อมรอบไปด้วยไม้ไผ่สานขัดกันไปมา ที่เรียกว่า ราชวัตร

                   เด็กสาวพรหมจรรณ์ ที่ถูกคัดเลือกให้มากวนข้าวทิพย์ ต้องรับศีล ๓ วัน ๓ คืน

      พิธีกรรม เริ่มต้นด้วยการนิมนต์พระเข้าไป ในบริเวณประกอบพิธีจะมีการ "เสก" บริกรรมด้วย พระคาถาต่างๆ ทุกขั้นตอนทั้ง ๔ มุม (ขึ้นท้าวทั้ง ๔) ตามตำรามอญ ที่ต้องประกอบพิธีอัญเชิญมหาบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์  พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหมด แม้กระทั่งสวรรค์ชั้นดุสิต ที่เป็นพระโพธิสัตว์ รอเสวยพระชาติเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป เพื่อบรรจุพุทธานุภาพในข้าวทิพย์ เพื่อให้ผู้รับประทานเข้าไปแล้ว มีจิตใจโน้ม ไปหาแสงสว่างแห่งธรรมะ ปัญญาเกิด ทุกข์โศกโรคภัยมลายหายไปหมดสิ้น
ข้าวทิพย์
     พิธีกรรมทางศาสนา เริ่มขึ้นโดยพระสงฆ์ จะเป็นผู้ทำพิธีบูชาพระรัตนตรัย รับศีล ๕ สาวพรหมจรรย์ที่ จะต้องทำหน้าที่กวนข้าวทิพย์ ต้องเข้าร่วมในพิธีกรรมนี้ด้วย สังเกตเห็นได้ว่า หลังจากรับศีลแล้วจะมีการบริกรรมคาถา เจิมหน้าผากและไม้พายสำหรับกวน จะเหน็บช่อใบขนุนและใบมะตูมที่หู เป็นอันเสร็จพิธีกรรมทางศาสนา หลังจากบริกรรมคาถาแล้ว ต้องถวายพานดอกไม้ขาวทั้ง ๔ มุมเพื่ออัญเชิญท้าวโลกบาลทั้ง ๔ ลงมาร่วมทำพิธีด้วย สาวพรหมจรรย์ประจำอยู่ที่กะทะกวน จากนั้นพระสงฆ์ ก็ทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เป็นจุดเริ่มต้นของพิธีกวนข้าวทิพย์ คนปรุงที่เป็นผู้หญิงเทเครื่องกวนลงไปทีละอย่าง เริ่มจากน้ำใบเตย น้ำมะพร้าว น้ำดอกไม้หอม จากนั้น ก็ทยอยเทเครื่องกวนต่าง ๆ ลงไป จนกว่าจะได้ที่ ซึ่งใช้เวลากวนประมาณ ๓ ชั่วโมง

       ประเพณีโบราณอย่างนี้ ไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก เพราะมีความยุ่งยาก และต้องใช้เงินจำนวนมาก ปัจจุบัน มีการจัดทำพิธีกวนข้าวทิพย์น้อยคนมาก ที่ยังคงมีจัดอยู่โดยมากเป็นวัด ที่ชุมชนมอญยังมีความเข้มแข็ง ทั้งนี้เพื่อสืบสานประเพณีโบราณ และเชื่อว่าผู้ที่ได้ร่วมในพิธี และได้ทานข้าวทิพย์จะได้อานิสงส์มาก ประสบพบแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น